ศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เป็นหน่วยงานขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยเป็นหน่วยราชการในรูปแบบเฉพาะมีลักษณะเป็นการบูรณาการการ ปฏิบัติงานจาก 7 หน่วยงานหลัก คือ กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและ ชายฝั่ง กองบังคับการตํารวจน้ำ และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
ปัจจุบัน ศรชล. นับเป็นหน่วยงานหลักและเป็นกลไกสําคัญของรัฐบาลและรับผิดชอบการดําเนินการที่มีเอกภาพ สามารถบูรณาการการปฏิบัติงานในการแก้ไข ปัญหาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร ในเขตทางทะเลที่มีลักษณะที่หลากหลาย และประเทศไทยมีอํานาจอธิปไตยหรือสิทธิอธิปไตย รวมทั้งสิทธิหน้าที่อื่นตาม หลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีพันธกรณีจะต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่มีอยู่อย่างมากมายในด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านทรัพยากร ด้านสิ่งแวดล้อม และต้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ภายใต้ภารกิจหลักในการป้องกันภัย 9 ด้าน ของ ศรชล. ประกอบด้วย
- การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล
- การทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง
- การทำประมงผิดกฎหมาย
- การค้ามนุษย์และการลักลอบเข้าเมืองทางทะเล
- การลักลอบขนยาเสพติด สินค้าผิดกฎหมายและอาวุธสงครามทางทะเล
- การลักลอบขนส่งสินค้าสองวัตถุประสงค์และอาวุธที่มีอำนาจการทำลายล้างสูงทางทะเล
- การกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือทะเล
- การก่อการร้ายทางทะเล
- การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทางทะเล และเหตุการณ์อื่นๆ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้อํานวยการ ศรชล. ได้ประกาศให้วันที่ 9 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงลงพระปรมาภิไธย ในการตราพระราชบัญญัติศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทางทะเล พ.ศ.2562 เป็นวันคล้ายวันสถาปนา ศรชล.
“ศรชล. เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศชาติและประชาชน”



